Gold ทองคำ Gold Today Gold Future Gold Price Gold Bar Gold Investment Gold Analysis Gold ChartGold ทองคำ Gold Today Gold Future Gold Price Gold Bar Gold Investment Gold Analysis Gold ChartGold ทองคำ Gold Today Gold Future Gold Price Gold Bar Gold Investment Gold Analysis Gold ChartGold ทองคำ Gold Today Gold Future Gold Price Gold Bar Gold Investment Gold Analysis Gold ChartGold ทองคำ Gold Today Gold Future Gold Price Gold Bar Gold Investment Gold Analysis Gold Chart

Thursday, February 17, 2011

ดอลล์แข็งเทียบปอนด์ หลังสหรัฐเผยดัชนีราคาผู้ผลิตพุ่ง

ดอลล์แข็งเทียบปอนด์ หลังสหรัฐเผยดัชนีราคาผู้ผลิตพุ่ง

ค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ปรับตัวสูงขึ้น

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.22% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6088 ปอนด์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.6123 ปอนด์ แต่อ่อนตัวลง 0.56% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.3564 ยูโร จากระดับ 1.3489 ยูโร

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังร่วงลง 0.11% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.660 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 83.750 เยน และร่วงลง 0.81% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9592 ฟรังค์ จากระดับ 0.9671 ฟรังค์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.78% แตะที่ 1.0032 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9955 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.55% แตะที่ 0.7552 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7511 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่นน้ำมันดิบ ส่งผลให้ราคาสินค้าประเภทอื่นๆในสหรัฐปรับตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ในขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษยังไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน ระยะนี้

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือซีพีไอเดือนม.ค.พุ่งแตะ 4.0% จากระดับ 3.7% ในเดือนธ.ค. โดยตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนม.ค.ยืนอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี และนับเป็นอีกหนึ่งเดือนที่เงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 2%

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.ของสหรัฐ หดตัวลง 0.1% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% เนื่องจากสภาพอากาศที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติทำให้ผลผลิตด้านสาธารณูปโภคปรับ ตัวลดลง ขณะที่ผลผลิตในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ปรับตัวลงด้วยเช่นกัน

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค.,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.

http://www.mtsgold.co.th/th/news/financial/index.php?ELEMENT_ID=5290