สัญญาทองคำ ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ หลังจากมีการคาดการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อในจีนจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 5% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลจีน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 4.70 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 1,365.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,354.40 - 1,367.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 53.9 เซนต์ ปิดที่ 30.534 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 9.25 เซนต์ ปิดที่ 4.6285 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 14.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,827.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 18.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 832.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนัก ข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเทรดเดอร์ในตลาดทองคำว่า นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อปกป้องความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ หลังจากหนังสือพิมพ์ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัล ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนม.ค.ของจีนอาจจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 5% ซึ่งสุงกว่าระดับเป้าหมายของรัฐบาล เนื่องจากราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น
ไชน่า ซิเคียวริตีส์ คาดการการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) อีก ในเดือนก.พ. โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อและจัดการกับสภาพคล่อง พร้อมกับคาดการณ์ว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารพาณิชย์ของจีนจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.2 ล้านล้านหยวนในเดือนม.ค. ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะบีบให้ธนาคารกลางจีนต้องควบคุมการขยายตัวของสิน เชื่อ
สำนัก งานสถิติแห่งชาติของจีนจะเปิดเผยดัชนีซีพีไอประจำเดือนม.ค.ในช่วง เช้าวันนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักลงทุนให้ความสำคัญกับตัวเลขเงินเฟ้อของจีนเป็นอย่างมาก เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่ใช้ทองคำรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
http://www.mtsgold.co.th/th/news/goldnews/index.php?ELEMENT_ID=5277