สัญญาทองคำ ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) เนื่องจากตัวเลขจ้างงานในภาคเอกชนของสหรัฐที่ขยายตัวเกินคาดทำให้นักลงทุนมี ความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,373.7 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 31 เซนต์ ปิดที่ 29.198 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 3.9 เซนต์ ปิดที่ 4.4080 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 12.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1730.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 6.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 775.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนัก ข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเทรดเดอร์ในตลาดทองคำนิวยอร์ก ว่า ตัวเลขจ้างงานในภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนธ.ค.ทำให้นักลงทุนลดการ ถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันเข้าเทรดในตลาดหุ้น ขณะที่นักลงทุนรายย่อยและกลุ่มเฮดจ์ฟันด์ได้เข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญา ทองคำทะยานขึ้นแข็งแกร่งในปี 2553
ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วประเทศสหรัฐเพิ่มการจ้างงาน 297,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 100,000 ตำแหน่ง
เท รดเดอร์อีกรายหนึ่งกล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจโลกและสหรัฐกำลังฟื้นตัว จึงทำให้นักลงทุนมองว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะเข้าซื้อทองคำในระยะนี้ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการที่นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจาก สัญญาทองคำทะยานขึ้นแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำด้วยเช่นกัน
http://www.mtsgold.co.th/th/news/goldnews/index.php?ELEMENT_ID=5086