
ราคาทองคำเพิ่มขึ้นเป็นวันที่สิบติดต่อกัน ทำสถิติเดียวกับเมื่อสี่สิบปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากความกลัวต่อปัญหาหนี้สินในยุโรป ซึ่งมีรายงานเพิ่มเติมว่าแปดธนาคารในยุโรปไม่สามารถประคองปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้นและจำเป็นต้องเพิ่มทุนอีกกว่า 2.5 ล้านยุโร
ประกอบกับทางฝั่งสหรัฐฯมีโอกาสจะปรับระดับเพดานหนี้ขึ้นไปอีก สู่ที่ระดับ 2.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐก่อนที่จะถึงกำหนดชำระหนี้ในวันที่ 2 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งมีความกังวลกันว่าสหรัฐจะสามารถชำระหนี้ดังกล่าวได้หรือไม่ ด้านความคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางจะออก QE3 เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าจะไม่เกิดขึ้นในขณะนี้
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นกว่า 7 เปอร์เซนต์จากต้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ถือเป็นปัจจัยบวกอีกหนึ่งสิ่งต่อราคาทองคำ
ตัวเลขราคาทองคำเพิ่มขึ้น 0.3 เปอร์เซนต์สู่ระดับ 1,591.50 เหรียญต่อออนซ์ ในเวลา 15.10 น.ของวันศุกร์ ราคาซิลเวอร์เพิ่มขึ้น 2.2 เปอร์เซนต์สู่ระดับ 39.02 เปอร์เซนต์ต่อออนซ์
ในทางเทคนิคเมื่อมองเทียบกับดัชนีดาวโจนส์แล้ว มีความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำจะขึ้นสูงกว่าระดับ 1,700 เหรียญต่อออนซ์ในสองสามเดือนข้างหน้านี้ และอาจถึงระดับ 5,000 เหรีญต่อออนซ์ หากภาวะเศรษฐกิจรุนแรงในระดับเดียวกับเกรตดีเปรตชั่น (Great Depression)
ด้านกองทุน SPDR ในช่วงสิบวันที่ผ่านมาในช่วงการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ ตัวเลขกองทุน ETF เพิ่มขึ้นน้อยกว่า 20 ตันหรือต่ำกว่า 1.5 เปอร์เซนต์สู่ที่ระดับ 1,225.4 ตัน ด้าน HSBC กล่าวว่าระดับราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นได้รับแรงฉุดดึงบางส่วนจากปัจจัยดังกล่าว
แปลข่าวโดยทีมวิเคราะห์ทองคำ MTS Gold
www.reuters.com 15-07-2011 00.30 THT
http://www.mtsgold.co.th/th/news/goldnews/index.php?ELEMENT_ID=6162
http://www.ibnuaffan.com/TH_moreEconews02.html