
ราคาทองคำที่ตลาด Comex ปรับตัวเพื่มขึ้น
ราคาทองคำที่ตลาด Comex ปรับตัวเพื่มขึ้น เมื่อวันพุทธที่ผ่านมา เนื่องจากมีประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ทำให้มีนักลงทุนบางส่วนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ อาจจะอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
ราคาทองคำที่ตลาด Comex ส่งมอบเดือน สิงหาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้น $10.30 หรือ 0.7 เปอร์เซ็นต์ โดยปิดที่ $1,547.10/ounce ตามตลาด นิวยอร์ก นาย Sterling Smith ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์จาก Country Hedging กล่าวว่า ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น อย่างมากเมื่อวันพุทธที่ผ่านมา จาก จุดต่ำสุดของวันที่ $1,530.40 นาย Sterling Smith ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่ ออกมาย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง และมีความเป็นไปได้ที่เห็น มาตรการ QE3 สูงขึ้นเรื่อยๆในอนาคต โดยFed ยังคงดอกเบี้ยในระดับต่ำ ที่ 0-0.25 เปอร์เซ็นต์ ไปอีกซักระยะ ตั้งแต่ เดือน ธันวาคม 2008
นาย Ben Bernanke ประธานธนาคารกลางสหรัฐกล่าวว่า เขา กำลังพิจารณา มาตาการณ์ QE รอบใหม่ดีหรือไม่ เนื่องจากหากมี การต่ออายุมาตรการ QE ต่อไปอาจทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อตามมา แต่อย่างไรก็ตาม ก็อาจมีการต่ออายุมาตรการ QE ต่อไปหาก มีสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา
โดยภาพรวม 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เศรษฐกิจสหรัฐ ออกมาไม่ค่อยดี โดยล่าสุด ตัวเลข ISM ภาคการผลิตเท่ากับ 53.5 ลดลงจากเดือนก่อนที่ระดับ 60.4 ซึ่งเป็นการลดลงสูงสุดภายในเดือนเดียว สูงที่สุดในรอบ 17 ปี ส่วนการจ้างงานภาคเอกชนก็ลดลงเช่นกันโดยเพิ่มขึ้นเพียง 38,000 ตำแหน่งโดยตัวเลขที่ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ 110,000 ตำแหน่งอย่างมาก และเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ เดือน กันยายน 2010 จากตัวเลข ที่ออกมานี้ ทำให้ ค่าเงินดอลล่าร์ ตกต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยอยู่ที่ $1.4459/euro
นาย George Gero ประธาน บริษัท RBC Global Futures กล่าวว่า จากตัวเลขทางเศรฐกิจที่ออกมาย่ำแย่ของสหรัฐทำไห้นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำแทนสินทรัพย์เสี่ยง โดยราคาทองคำในช่วงนี้ มีแนวรับที่ $1,500 และแนวต้านที่ $1,550
ในขณะที่ราคาโลหะเงิน ที่ตลาด Comex ส่งมอบเดือน กรกฏาคม ลดลง 59 เซนต์ ปิดที่ $37.715 ที่ตลาดนิวยอร์ก โดยเคลื่อนไหว ระว่าง $37.50 ถึง $38.50
จาก http://www.thebulliondesk.com/ New York 01/06/2011
แปลข่าวโดยทีมวิเคราะห์ข่าวทองคำ MTS Gold
http://www.mtsgold.co.th/th/news/goldnews/index.php?ELEMENT_ID=5852
http://www.ibnuaffan.com/TH_moreEconews02.html