
ทั้งนี้ หากวิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาทองคำมี Technical Rebound โดยอยู่ในช่วงของการปรับฐานหลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,570 ดอลลาร์สหรัฐ และมีแรงเทขายทำกำไรมาในสัปดาห์ที่แล้วอย่างต่อเนื่อง และมีแรงดีดกลับของทองคำ โดยที่มีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,460 ดอลลาร์สหรัฐ และ 1,480 ดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ โดยที่มีแนวต้าน 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ และ 1,510 ดอลลาร์สหรัฐ โดยที่ราคาทองยังอยู่ในช่วงของการปรับฐานทำกำไร หลังจากที่ทดสอบแนวรับที่สำคัญและสามารถยืนได้ โดยเป็นจุดรับของ Fibonacci 50 % คาดว่าราคาทองคำน่าจะมีการแกว่งตัวและผันผวนในกรอบ 1,490-1,500 ดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 21,250 บาท และ 21,350 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1,485 ดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 21,300 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 21,500 บาท ทองคำแท่งของไทยยังได้รับอานิสงค์จากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท โดย ณ ขณะนี้อยู่ที่ 30.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ Gold Futures M11 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,540 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,650 บาท
คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade):เก็งกำไรตามการแกว่งตัว ซึ่งคาดว่าราคาน่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,490-1,500 ดอลลาร์สหรัฐ น่าจะมีความผันผวนในวันนี้ และ คงมีแรงเทขายทำกำไรบ้างบางส่วน
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade):ยังเป็นลักษณะขายทำกำไรบ้างบางส่วน พอร์ตประมาณ 15 %
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง:อยู่ในจังหวะเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว พอร์ตประมาณ 10 %
สรุปได้ว่านักลงทุนต้องปรับพอร์ตให้ดีให้เหมาะสมกับการแกว่งตัวของราคา ทำกำไรเป็นช่วงๆโดยตลอด
http://www.thairath.co.th/content/eco/170108