
ตลาดซานฟรานซิสโก – ราคาทองคำส่งมอบล่วงหน้ามีการตั้งฐานร่วงลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่ราคาทองคำมีการฝ่าระดับสูงสุดตลอดกาลไปได้ทำระดับสูงสุดใหม่อีก ครั้ง ซึ่งได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางยุโรปออกมาประกาศว่าควรจะมีการขึ้น อัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ
ราคาทองคำทองคำส่งมอบเดือนเมษายนมีการปิดตัวร่วงลง $21.30 หรือ 1.5% ปิดตัวตั้งฐานแตะที่ระดับ $1,416.40 ต่อออนซ์
ราคาทองคำมีการปิดตัวร่วงลงจากระดับสูงสุดตลอดกาลเมื่อวันพุธที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ระดับ $1,437.70 ต่อ ออนซ์ เทรดเดอร์ได้กล่าวว่า ราคาทองคำได้รับแรงหนุนนำจากการที่ความกังวลเกี่ยวกับสภาวะเงินเฟ้อบวกกับ ความกังวลเกี่ยวกับความไม่สงบในแถบตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุนนำให้ราคา ทองคำมีการทะยานตัวสูงขึ้นทำสถิติสูงสุดตลอดกาล
โดย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาประธานธนาคารกลางยุโรปได้ออกมากล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนเมษายน และนอกเหนือจากนี้ยังได้กล่าวต่ออีกว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็น ประวัติการณ์ที่ 1.0% ซึ่งยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆในขณะนี้
นอก เหนือจากนี้ราคาน้ำมันดิบมีการปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน ซึ่งเหล่าบรรดานักลงทุนมีการเข้าหาการลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงใน ช่วงระยะเวลาอันสั้น โดยราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนเมษายนมีการปิดตัวร่วงลง 92 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดตัวแตะที่ระดับ $101.33 ต่อออนซ์
นัก วิเคราะห์ได้กล่าวว่า ราคาทองคำอาจจะมีการทะยานตัวสูงขึ้นในการซื้อขายช่วงสิ้นสุดสัปดาห์โดยใน วันนี้เป็นแรงเทขายทำกำไรและเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อของเหล่าบรรดานักลง ทุน
โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 26 ก.พ.ลดลง 20,000 ราย แตะระดับ 368,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง หรือต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปี 2008 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 398,000 ราย
ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.พุ่งขึ้นแตะระดับ 59.7 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 59.4 จุด
จาก MarketWatch
แปลข่าวโดยทีมวิเคราะห์ทองคำ MTS Gold
http://mtsgold.co.th/th/news/goldnews/index.php?ELEMENT_ID=5377