ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานของ ADP Employer Services ที่ ระบุว่าภาคเอกชนในสหรัฐเพิ่มการจ้างงานมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยชดเชยผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบได้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 8.78 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 12,066.80 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.11 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 1,308.44 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 10.66 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 2,748.07 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจาก ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วประเทศสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 217,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 175,000 ตำแหน่ง
ตลาดได้แรงหนุนจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟดทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book ที่ ระบุว่า เศรษฐกิจในทุกภูมิภาคของสหรัฐขยายตัวปานกลาง แต่ถึงกระนั้นก็ตาม คณะกรรมการเฟดบางคนได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ รวมทั้งต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในภาคการผลิตและค้าปลีก
เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดได้ต่อคณะกรรมาธิการฝ่ายบริการด้านการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เมื่อคืนนี้ว่า เฟดพยายามที่จะลดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม เฟดยังคงกังวลในเรื่องเงินเฟ้ออยู่บ้าง หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงน้ำมันและธัญพืช ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้ รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออก กลางและแอฟริกา
ฟาตีห์ ไบรอล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) กล่าว ว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอันเนื่องมาจากสถานการณ์รุนแรงในลิเบียและประเทศใน ตะวันออกกลางนั้น กำลังทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกตกอยู่ในภาวะที่เปราะบาง โดยไบรอลคาดว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจะสร้างความเสียหายต่อดุลการค้าและทำให้รายได้ใน ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจหดตัวลง นอกจากนี้ ยังจะเพิ่มแรงกดดันให้กับอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย และจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในที่สุด
หุ้นคอสโค ซึ่งเป็นบริษัทค้าส่งรายใหญ่ของสหรัฐ ปิดบวก หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิรายไตรมาสทะยานขึ้น 16%
หุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนต์ปิดพุ่ง 3.3% หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นกลุ่มเซมิคอนดัก เตอร์ ส่วนหุ้นแอปเปิลปิดบวก หลังนายสตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอของแอปเปิลได้ปรากฎตัวต่อสาธารณชนด้วยการนำเสนอ iPad รุ่นใหม่ด้วยตนเองในงานเปิดตัวสินค้าที่เมืองซานฟรานซิสโก
นัก ลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี แรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ ISM จะ เปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนก.พ. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนม.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.พ.จะอยู่ที่ 9.1% เพิ่มขึ้นจากเดือนม.ค.ที่ระดับ 9.0%
http://www.mtsgold.co.th/th/news/financial/index.php?ELEMENT_ID=5370