สกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) เพราะถูกกดดันจากการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีน นอกจากนี้ การที่สถานการณ์ตึงเครียดในอียิปต์ได้คลี่คลายลง ทำให้นักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย และหันไปถือครองสกุลเงินที่มีความเสี่ยงสูงกว่า
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.34% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.3632 ยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3586 ยูโร แต่แข็งค่าขึ้น 0.24% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6071 ปอนด์ จากระดับ 1.6110 ปอนด์
ดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบเงินเยนที่ระดับ 82.310 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9627 ฟรังค์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.9553 ฟรังค์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.18% แตะที่ 1.0147 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0129 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.62% แตะที่ 0.7742 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7694 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และดอกเบี้ยเงินฝากอีก 0.25% โดยให้มีผลตั้งแต่วันพุธที่ 9 ก.พ.เป็นต้นไป ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปีอยู่ที่ระดับ 6.06% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปีอยู่ที่ 3.00% โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดเงินเฟ้อ
นายหลิว เต๋อจง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Minmetal Securities ระบุ ว่า การขึ้นดอกเบี้ยของจีนอาจจะส่งผลกระทบในกรอบที่จำกัดต่อตลาดหุ้น และการที่จีนตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในวันสุดท้ายของช่วงวันหยุดตรุษจีนนั้น สะท้อนให้เห็นว่าธนาคารกลางจีนมีเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อไม่ให้พุ่ง สูงขึ้นอีก
นอก จากนี้ การที่สถานการณ์ตึงเครียดในอียิปต์เริ่มคลี่คลายลงไปในทางที่ดี ยังทำให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสกุลเงินที่ ปลอดภัย และหันไปถือครองสกุลเงินที่มีความเสี่ยงสูงกว่า แต่ให้อัตราผลตอบแทนมากกว่า เช่นสกุลเงินยูโรและดอลลาร์ออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินยูโรได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.ลดลง 1.5% จากเดือนพ.ย.ที่ปรับตัวลง 0.6% เนื่องผลมาจากผลผลิตในภาคการก่อสร้างที่ร่วงลงอย่างหนัก แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ผลผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมนีตลอดทั้งปี 2553 ขยายตัวขึ้น 10% จากปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจของเยอรมนีได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก
ABC News เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลง 5 จุด แตะระดับ -46 จุดรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ก.พ. จากระดับ -41 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธ.ค., งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค.และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค.
http://mtsgold.co.th/th/news/financial/index.php?ELEMENT_ID=5254